เหนาะเอาคืน !

"มีขบวนการล้มเจ้าอาวาส"

อา..พูดเหมือนรัฐบาลกับฝ่ายค้านทุกสมัยเลยฮ่ะ แสดงว่าป๋าเหนาะเป็นเซียนการเมือง เพราะพูดอีกก็ถูกอีก ล้มก็ล้มเจ้าอาวาสและนายกรัฐมนตรีสิ ใครจะล้มฝ่ายค้านล่ะ เยี่ยมจริงๆ เลยฮะ ป๋าเหนาะ เอาตำแหน่งสังฆราชไปเลยดีไหม จะได้แบ่งค่ายประเทศไทยให้มันชัดเจน

ป๋าเหนาะสั่งชุมชนโต้ฝ่ายตรงข้าม

เจ้าคุณธงชัยคือตัวโกง

ไล่ที่ชาวบ้าน-เก็บค่าเผาศพแพงหูฉี่

จนไม่มีใครไปเผาที่วัดสระเกศ

อาฮ่า ! เพิ่มข้อหาให้พรหมสิทธิอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ ในนาม เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค 12 และประธานกรรมการฝึกอบรมพระธรรมทูตไปต่างประเทศ ถึงคราวเล่นบทบู๊พ่อก็เล่นทุกรูปแบบ ทั้งออกโรงเอง สั่งสมุนบริวาร รวมทั้งชาวบ้านรอบวัด ออกมารุมสกรัมฝ่ายตรงกันข้าม นับว่าครบเครื่องสมชื่อนักเลงอยุธยาขนานแท้ แต่เจ้าคุณเหนาะคงมองไม่เห็นกระมัง ว่าโลกทั้งใบนั้นเขามองท่านอย่างไร ภาพพจน์-คำเล่าเกี่ยวกับตัว "ป๋าเหนาะ" นั้น ถามพระสงฆ์ไทยทั้งประเทศดูซี ว่ามันดีหรือเลว หลอกตัวเอง หลอกเจ้าคุณเอื้อน หลอกสมเด็จสมศักดิ์ หรือสมเด็จวัดปากน้ำ น่ะ หลอกได้ แต่หลอกคนทั้งโลกไม่ได้หรอก ที่วัดวาอารามย่อยยับอัปราลงไป ไล่ตั้งแต่วัดโสธรมาจนถึงวัดสระเกศในวันนี้ ถามทีว่ามันฝีมือของใคร ถ้ามิใช่ "คุณเสนาะ" ?

วัดสระเกศทูเดย์

ม็อบเต็มวัดสระเกศ

มากันทั้ง 3 ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นชุมชนวัดสระเกศ-บ้านบาตร-โรงไม้ ให้กำลังใจป๋ากันเต็มพิกัด แต่ถามทีเถิดว่า บรรยากาศแบบนี้ใครจะไปวัดสระเกศ ขนาดพระในวัดยังหดหัวอยู่ในกุฏิ มีแต่สายตาและสองหูคอยดูลอดช่องออกนอกห้องนอน หมาหอนก็ยังไม่กล้าออกมาไล่ กลัวโดนลูกหลง เฮ้อ ! เวรกรรม

วันนี้ ถ้าสถานการณ์ยังไม่สงบ พรุ่งนี้ก็อาจจะมีออเดอร์พิเศษ สั่ง "น้ำฝน-ขาใหญ่นครชัยศรี" ศิษย์เอก จากวัดไผ่ล้อม นครปฐม ให้ขนกำลังเข้ามาเสริม ถึงตอนนั้นจะหาว่าเหนาะไม่เตือนนะ ท่านธงชัยเอ๋ย ยอมความเสียแต่โดยดี อำนาจอยู่ในมือผมแล้ว อิอิ !

เช้านี้ที่หมอชิต - เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ยืนยันไม่มีธุรกิจพันล้านและรถยนต์หรู ตามที่ตกเป็นข่าว พร้อมระบุ ภายในวัดมีความขัดแย้งกันเอง และมีขบวนการล้มเจ้าอาวาส

หลังจากที่มีการเผยแพร่ข้อมูลในโซเชียลเน็ตเวิร์คว่า เจ้าอาวาสวัดชื่อดัง แห่งหนึ่งใน กรุงเทพมหานคร ร่ำรวยผิดปกติ  มีธุรกิจ พร้อมรถหรูกว่า 20 คัน,บ้านจัดสรรกว่า 100 ไร่,สวนกล้วยไม้ 300 ไร่,รีสอร์ทนับร้อยล้าน,เปิดฟาร์มไก่ชน,เพาะพันธุ์ปลากัด,เปิดฟาร์มขายนกเขา รวมถึงปล่อยเงินกู้ให้พระด้วยกันเอง รวมแล้วข้อมูลดังกล่าวระบุว่าธุรกิจของเจ้าอาวาสรูปนี้ มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

จากการตรวจสอบ พบว่า วัดดังกล่าว คือวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ซึ่งทีมข่าวได้พบกับ พระพรหมสุธี(เสนาะ ปัญญาวชิโร) เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ  ซึ่งได้ชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ

เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ยืนยันว่า ไม่ได้ครองรถหรูตามที่ถูกกล่าวหา  มีเพียงรถที่ได้จากการบริจาคเพื่อใช้ในกิจของสงฆ์เท่านั้น ส่วนสวนกล้วยไม้ ที่อยู่ในพื้นที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก็เป็นกิจการของญาติที่มีการทำมานานแล้ว โดยที่ตัวเจ้าอาวาสไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ใดๆ  ส่วนไก่ชนที่เป็นข่าว ก็ไม่ได้ทำเป็นเป็นธุรกิจแต่มีผู้ศรัทธาบริจาคมา จึงเลี้ยงไว้เพื่ออนุรักษ์ และที่กล่าวอ้างว่าเพาะพันธุ์ปลากัดขายนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พร้อมยืนยันว่าไม่ได้มีทรัพย์สินหรือเงินเป็นพันล้านตามที่ถูกกล่าวหา เพราะถ้ามีเงินเป็นพันล้านบาทจริง คงไม่อยู่แล้ว

พระพรหมสุธี  ยอมรับว่า มีความขัดแย้งภายในวัดโดยเกิดขึ้นหลังรับตำแหน่งเจ้าอาวาสและได้ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการภายในวัด ซึ่งอาจทำให้พระสงฆ์บางรูปไม่พอใจ และเชื่อว่าเป็นขบวนการล้มเจ้าอาวาส จึงมีการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวออกมา ซึ่งได้ชี้แจงเรื่องทั้งหมดต่อพระเถระชั้นผู้ใหญ่แล้ว

ขณะที่พระลูกวัดก็ยอมรับว่า ภายในวัดมีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์มาสักระยะ  ทำให้พระภายในวัดเกิดการแบ่งแยกอำนาจการปกครองในแต่ละฝ่าย

ด้านชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้วัด ซึ่งประกอบไปด้วย ชุมชนวัดสระเกศ  ชุมชนบ้านบาตร และชุมชนโรงไม้ ออกมายืนยันว่าข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง  โดยหลังจากทราบข่าวก็ได้รวมตัวกันมาให้กำลังใจเจ้าอาวาส พร้อมเปิดเผยกับทีมข่าวว่า ผู้ที่กระทำผิดวินัยสงฆ์กลับเป็น พระพรหมสิทธิ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เนื่องจากมีการไล่ที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ข้างวัด และยังเรียกเก็บค่าฌาปนกิจศพแพงจนชาวบ้านไม่กล้านำศพไปเผาที่วัด

ส่วนกรณีคลิปที่ปรากฏว่า เจ้าอาวาสวัด ระดมชาวบ้านให้ไปรวมตัวขับไล่พระลูกวัด ขอยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง 

ทีมข่าวพยายามติดต่อไปยังพระพรหมสิทธิ หรือพระธงชัย  สุขญาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศ  ซึ่งเป็นคู่กรณีกับพระพรหมสุธี แต่ถูกปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ นอกจากนี้มีบางกระแสข่าวระบุว่า พระพรหมสิทธิ เตรียมตัวเดินทางไปต่างประเทศ

ด้านสำนักพระพุทธศาสนา เมื่อวานนี้ ก็มีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาทางพระพุทธศาสนา และกรณีนี้ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่หยิบยกมาพูดคุยที่ในประชุม โดยขณะนี้เรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบสวนของพระผู้ใหญ่ซึ่ง สำนักงานพระพุทธศาสนายืนยันว่า พระสงฆ์และวัด ไม่มีสิทธิดำเนินธุรกิจใดๆ เว้นแต่จะได้รับทรัพย์สินจากศรัทธาของประชาชน และต้องนำไปบำรุงวัดเท่านั้น หากพบว่ากระทำจริงจะถือว่าผิดวินัยสงฆ์ถึงขั้นปาราชิกทันที

ที่มา : เช้านี้ที่หมอชิต
29 สิงหาคม 2557