|
มจร. เชิญ "ติช นัท ฮันห์" สาธิตนั่งสมาธิ
เออก็นึกว่าจะยกเลิกไปแล้วเชียว ไอ้โครงการโง่ๆ เนี่ย
แต่ความโง่ ความดื้อด้าน ของผู้บริหาร มจร. นี่หนักหนาเหลือเกิน นิมนต์เขามา ถ้ามาสอนเรื่องอื่นที่เราไม่ถนัดมันก็พอฟัง แต่นี่ดันไปเชิญเขามาพูดเรื่องสมาธิภาวนา และสาธิตวิธีทำใจยังโง้นยังงี้ ทั้งๆ ที่มหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งนี้ก็มีบุคคลากรล้นประเทศ องค์โน้นก็ ป.ธ.9 องค์นั้นก็ศาสตราจารย์ องค์นี้ก็ด๊อกเตอร์ องค์นี้เป็นเจ้าคุณด้วย แต่แค่สอนทำสมาธิภาวนาก็ไม่มีปัญญาสอน มีปัญญาก็แต่เรื่องเดียวคือแจกปริญญาเป็นปึกๆ ในแต่ละปี หนำซ้ำยังเอาเขามาเชิดชูว่าดูดีกว่าพระไทยด้วยกันเสียอีก แล้วจะมีมหาวิทยาลัยไปทำไม ยกให้ติช นัท ฮันห์ ไปเสียก็สิ้นเรื่อง
ความจริงก็ไม่มีอะไรหรอก แค่ มจร. อยากโกอินเตอร์ อยากสัมผัสคนดังๆ ระดับโลกเท่านั้นเอง แต่ทำไม่เป็น น่าจะใช้เขาเป็นบันไดไต่ให้เราขึ้นสู่ระดับสูง แต่นี่กลับให้เขามานั่งทับเราให้เตี้ยลงไปอีก เชิญเขามาแล้วเรียกคนไทยไปนั่งอบรม ก็กลายเป็นสาวกของเขาหมดสิ แล้วเขาล่ะ เคยนิมนต์เราไปในทำนองเดียวกันไหม แต่เออ ถ้าเชิญมาร่วมประชุมวิสาขบูชานานาชาติ อย่างนี้ก็พอฟัง แต่นี่เล่นฉายเดี่ยวเหมือนวงดนตรี The Eagles มาเล่นคอนเสิร์ตเก็บเงินกลับประเทศ ยังงี้มันโง่ยิ่งกว่าโง่ เข้าทำนองขายชาติศาสนาเชียว
วันก่อนก็มีข่าวนิมนต์พระพม่ามาสอนวิปัสสนาพระไทยในโครงการของ มจร. ซึ่งใช้ทุนหลวงหรือทุนพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันนี้ก็เอาอีก นิมนต์พระเวียตนาม ซึ่งต่างนิกายมาสาธิตวิธีนั่งสมาธิให้คนไทยฟัง เรา-พระไทย เป็นเถรวาท ที่ยึดมั่นในพระธรรมวินัยดั้งเดิมที่สุด แต่เขา-พระเวียตนาม เป็นมหายาน ซึ่งเป็นคนละนิกาย การให้เขาเข้ามาสอนเรื่องสมาธิวิปัสสนาในประเทศไทย จึงเหมือนการเปิดช่องให้มหายานเข้ามามีบทบาทในเถรวาท มองด้านไหนก็มีแต่เสียกับเสีย ทั้งๆ ที่พระฝรั่งในสายเถรวาทก็มีเยอะแยะ เช่นสายหลวงพ่อชาที่อังกฤษเป็นต้น แต่ มจร. กลับมองข้าม
พวกท่านเป็นถึงผู้บริหารมหาวิทยาลัย มิใช่เจ้าอาวาสสร้างโบสถ์เท่านั้น ดังนั้นจะคิดจะทำอะไรก็ให้ระมัดระวังเรื่องภาพพจน์ของประเทศชาติพระศาสนาไว้ด้วย อย่าคิดว่าคนไทยเขาไม่รู้เรื่องหรือไม่เข้าใจในเรื่องเหล่านี้ ถ้าสมองของผู้บริหาร มจร.มีแค่นี้ ก็นิมนต์ลาออกไปให้หมดเสียเถอะท่านเจ้าคุณประยูร อย่าอยู่ต่อไปให้เป็นที่เสื่อมเสียแก่ มจร. และคณะสงฆ์ไทยเลย
ดีแต่คุย
เป็นคติกลอนประจำใจของพระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต ป.ธ.9 Ph.D.) อธิการบดีมหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร. โดยเฉพาะบาทสุดท้ายนั้นน่าสนใจมาก "จนอะไรไม่ยากเท่าจนปัญญา"
มหาวิทยาลัย มจร. เป็นมหาวิทยาลัยของคณะสงฆ์ไทย และเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาลไทย คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยแห่งนี้จึงมีฐานะเท่ากับคณะรัฐมนตรีในกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งการบริหารมหาวิทยาลัยนั้นจะต้องคำนึงถึงหลักการของคณะสงฆ์ไทยเป็นหลักใหญ่ เพราะอย่าลืมว่าทุกวันนี้ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ใช้เงินภาษีอากรของประชาชนเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหาร
มจร. ได้ชื่อว่ามีบุคคลากรหลากหลาย แต่สุดท้ายบุคคลากรในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าตน "จนปัญญา" ถึงกับต้องไปเชิญพระพม่าบ้าง พระเวียตนามบ้าง มาสอนวิปัสสนาในเมืองไทย น่าสงสารพระนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้เหลือเกิน ว่าเรียนจบมาแล้วจะได้อะไรบ้าง เพราะขนาดผู้บริหารยังจนปัญญาขนาดนั้น
"มจร" มหาวิทยาลัยสงฆ์อาราธนาพระธรรมาจารย์ ติช นัท ฮันห์ นำภาวนา “รู้จักใจ : พุทธวิถีเพื่อหล่อเลี้ยงและเยียวยา” 25-31 มีนาคม (11 มี.ค.) พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ (ไสว โชติโก) รักษาการผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) ได้กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้อาราธนาพระธรรมาจารย์ ติช นัท ฮันห์ พระมหาเถระจากศูนย์ปฏิบัติธรรมนานาชาติ หมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส พร้อมคณะกว่า 100 ท่าน เพื่อจาริกธรรมในประเทศไทย ซึ่งจะเดินทางมาในวันที่ 22 มีนาคม 2554 เพื่อนำภาวนา ระหว่างวันที่ 25-31 มีนาคม 2554 เรื่อง “รู้จักใจ :พุทธวิถีเพื่อหล่อเลี้ยงและเยียวยา” “Understanding Our Mind : The Buddhist Practice of Nourishment and Healing” ณ หอประชุม มวก 48 พรรษา มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อยุธยา ในการจัดกิจกรรมภาวนาครั้งนี้ ท่านผู้อำนวยการสถาบันฯ ได้กล่าวว่า มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ปฏิบัติภาวนา เพื่อเข้าใจการทำงานของจิตโดยใช้หลักจิตวิทยา โดยเปิดรับสมัครญาติธรรมผู้มีบุญที่สนใจ ทั้งพระภิกษุสงฆ์และคฤหัสถ์ จำนวน 1,300 รูป/คน เข้าร่วมกิจกรรมภาวนา
ข่าว
: คมชัดลึก |
www.alittlebuddha.com วัดไทย ลาสเวกัส 2920 McLeod Dr. Las Vegas Nevada 89121 USA (702) 384-2264 |