ยึดสมณศักดิ์-ไสหัว
!
พระครูจักษุธาตุพ้นวัดสัมพันธวงศ์
ข้อหา
"ขี้ใส่วัดจนเปรอะเปื้อน"
อุตส่าห์ให้ซุกหัวนอน-ตั้งเป็นฐานาในสมเด็จฯ
แต่วันนี้วัดสัมพันธวงศ์เน่าเหม็นไปทั่วโลก
พระครูลวงโลกอ้างจะเอากลับไปอุดรบ้านเกิด
โอ้..คนอุดรคงไม่โง่เหมือนคนกรุงเทพฯ (บางคน) หรอก



ภาพบนใช้กล้องปัญญาอ่อนก็จะออกมาเป็นภาพล่าง

ภาพพระครูประจักษ์จอมลวงโลก

วัดป่าศรีคุณาราม อุดรธานี สถานที่สร้างพระเจดีย์ลวงโลก

สถานที่สร้างเจดีย์บรรจุเพชรรัสเซียแห่งแรกในโลก
แผ้วถางไปเยอะแล้ว
ถ้าไม่สะดุดก็คงเสร็จภายในเร็ววัน
แต่ของเทียมยังไงก็เป็นของเทียมอยู่วันยังค่ำ
แค่พิสูจน์ยังไม่กล้า นับประสาอะไร
ขับพระครู
'จักษุธาตุ'
พร้อมยึดคืนฐานานุกรมด้วย
กับจ่อดำเนินคดีอาญาอีก
มติสงฆ์วัดสัมพันธวงศ์ ให้ขับ "พระครูพันธกิจประจักษ์"
เจ้าของจักษุธาตุเจ้าปัญหาออกจากวัดหลังไม่ยินยอมให้ตรวจพิสูจน์ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม
แถมยึดตำแหน่งฐานานุกรมคืนวัดด้วย
เตรียมปรึกษานักกฎหมายจัดการดำเนินคดีตามขั้นตอน
ขณะที่พระครูต้นเหตุไม่ยี่หระ ยังยืนยันความบริสุทธิ์
เหน็บเป็นแค่พระบ้านนอกไม่มีสิ่งเคลือบแฝง
โอ่เงินค่าก่อสร้างเจดีย์บรรจุจักษุธาตุ 600 ล้านบาทเรื่องจิ๊บๆ
กรณีวัดสัมพันธวงศ์ ถนนทรงสวัสดิ์ เขตสัมพันธวงศ์ กทม.
ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการอ้างว่ามีพระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุ
ของพระครูพันธกิจประจักษ์ ภูริปญฺโญ สังกัดวัดป่าศรีคุณาราม จ.อุดรธานี
พระอาคันตุกะที่มาอาศัยจำพรรษาในวัด นำมาเปิดให้
ประชาชนบูชาว่าเป็นของแท้หรือของเทียม
เพื่อป้องกันไม่ให้มีการแอบอ้างหลอกลวงประชาชน แต่พระครูพันธกิจประจักษ์ไม่ยอมให้ตรวจพิสูจน์
อ้างว่าพระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุเป็นของสูงและไม่ควรแตะต้อง
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่วัดสัมพันธวงศ์ พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง
ผบก.น.6 สั่งการให้ พ.ต.อ. รุ่งโรจน์ สายันประเสริฐ ผกก.สน.พลับพลาไชย 2
นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลความเรียบร้อยภายในบริเวณวัด
ขณะที่บรรยากาศที่ตึกมงคลวิทยา ชั้น 3 กุฏิจำพรรษาของพระครูพันธกิจประจักษ์
และที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุส่วนจักษุธาตุยังคงเงียบเหงา
มีประชาชนเข้ามาสักการะพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระจักษุธาตุน้อยมาก
คงมีเพียงลูกศิษย์ของพระครูพันธกิจประจักษ์ ไม่กี่คนเท่านั้น
ต่อมา พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ได้เข้าหารือกับพระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์
กรรมการมหาเถรสมาคม โดยพระพรหมเมธีแจ้งให้ทราบว่า
ตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่เรื่องการที่วัดสัมพันธวงศ์ตั้งกรรมการตรวจสอบจักษุธาตุ
รวมทั้งยังขู่พระในวัดด้วย นอกจากนี้ หลังจากมีเรื่องของจักษุธาตุออกไป
ได้มีบุคคลภายนอกที่ไม่คุ้นเคยเข้ามาป้วนเปี้ยนในวัด
และชอบหาเรื่องท้าตีท้าต่อยกับคนในวัด
ซึ่งได้กำชับคนในวัดว่าห้ามไปทะเลาะกับใคร
เพราะศรัทธาแบบนี้ไม่ใช่ศรัทธาแบบพระพุทธศาสนา เป็นการลุ่มหลงงมงาย
เพราะในการพิสูจน์จักษุธาตุทุกฝ่ายก็เห็นชัดเจนอยู่แล้วว่าพระครูพันธกิจประจักษ์และศิษยานุศิษย์ไม่ยอมให้มีการพิสูจน์
เท่ากับเป็นการขัดขืนมติวัด
และไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการกล่าวอ้างว่าสามารถสื่อสารกับพระพุทธเจ้าได้
ซึ่งเข้าข่ายการอวดอุตริ
"เรื่องจักษุธาตุ วัดสัมพันธวงศ์ไม่ได้ต่อสู้กับพระครูพันธกิจประจักษ์
แต่ต่อสู้กับกลุ่มอิทธิพลที่อยู่ เบื้องหลังพระครูพันธกิจประจักษ์
ยืนยันว่าวัดไม่ได้สนใจเรื่องเงินบริจาค
แต่สนใจที่จะพิสูจน์ว่าจักษุธาตุเป็นของจริงหรือของปลอม
เพราะในตำราและพระไตรปิฎกไม่มีการระบุว่ามีจักษุธาตุ" พระพรหมเมธีกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.อ. รุ่งโรจน์รับปากว่าจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาคอยตรวจสอบ
และดูแลความสงบเรียบร้อยในวัดระยะหนึ่งจนกว่าเหตุการณ์ จะเข้าสู่ภาวะปกติ
พระพรหมเมธีเผยว่า ได้เรียกประชุมผู้ช่วยเจ้า อาวาสวัดระดับกรรมการวัด
เพื่อดำเนินการในเรื่องกฎระเบียบปกครองวัด และมีมติจากที่ประชุมคือ ให้พระครูพันธกิจ–ประจักษ์ออกไปจากวัด
เพราะทำให้วัดมัวหมองมีมลทินจากโลกวัชชะ หรือโลกติเตียน และพระครูพันธกิจประจักษ์
ก็ไม่ได้เป็นพระในวัดสัมพันธวงศ์ ตามระเบียบปกครองของวัด ถ้าเป็นพระที่บวชในวัดสัมพันธวงศ์
หากมีความผิดต้องสึกเท่านั้น แต่พระครูพันธกิจประจักษ์ไม่ใช่พระในวัด
แค่มาขออาศัย จึงให้ออกจากวัดไป ส่วนตำแหน่งฐานานุกรมที่พระครูพันธกิจ
ซึ่งเป็นฐานานุกรมสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์
จะต้องคืนให้กับวัดด้วย
จากนี้จะหารือกับนักกฎหมายเพื่อดำเนินการทางกฎหมายให้ถูกต้อง
จะไม่ให้วัดถูกตำหนิติเตียนว่าร่วมกันเป็นแหล่งซ่องสุมให้ประชาชนหลงผิด
มัวเมา เพราะการอ้างว่ามีจักษุธาตุ แต่ไม่ยอมให้พิสูจน์ ใครๆก็อ้างได้
ด้านพระครูพันธกิจประจักษ์กล่าวว่า คงต้องออกจากวัดสัมพันธวงศ์เพราะเป็นความตั้งใจเดิม
โดยจะกลับไปที่วัดป่าศรีคุณาราม จ.อุดรธานี
เพื่อวางศิลาฤกษ์พระมหาเจดีย์มงคลบรรจุจักษุธาตุในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้
จากนั้นจะมาพิจารณาว่าจะย้ายออกจากวัดสัมพันธวงศ์ไปวันไหน อย่างไรก็ตาม
ยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งเคลือบแฝงเพราะเป็นพระบ้านนอก เมื่อวัดสัมพันธวงศ์ไม่เห็นคุณค่า
ทั้งที่ตนเป็นพระทำงาน เมื่อคนไม่เห็น เทวดาก็เห็น ดังนั้นก็ต้องไป
ส่วนการหาเงิน 600 ล้านบาท เพื่อสร้างพระมหา–เจดีย์มงคล
ไม่มีปัญหา เพราะลูกศิษย์เห็นใจที่ถูกรังแก จึงตั้งใจที่จะทำให้สำเร็จ
และขณะนี้ยังไม่มีผู้บริจาครายใดมาแจ้งความประสงค์ว่าต้องการเงินบริจาคคืน
ขณะที่นายอำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า
ปัญหาเรื่องจักษุธาตุ ขณะนี้เป็นเรื่องของวัดที่ต้องปกป้องชื่อเสียง
เนื่องจากเป็นพระอารามหลวง มีสมเด็จพระราชาคณะจำพรรษา
ส่วนจักษุธาตุจะจริงหรือไม่จริงแล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน
แต่ในตำราและพระไตรปิฎกไม่มีการระบุถึงจักษุธาตุ
ส่วนเรื่องคดีความอยู่ที่ผู้เสียหายว่าจะต้องการแจ้งความดำเนินคดีข้อหาหลอกลวงหรือไม่
ขึ้นอยู่กับผู้เสียหาย ถ้ามีการแจ้งความก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าว
: ไทยรัฐ
13 มีนาคม 2554