ขอคืน
!
ทางออกสุดท้ายวัดไทยนาลันทา
ว่าแต่ให้พระมหาพันไปเจรจาจะสำเร็จเหรอ
เพราะท่านเป็นคู่กรณีฟ้องร้องกันมาจนแพ้คดี
กรณีนี้น่าจะมีคนกลางเข้าไปไกล่เกลี่ยมากกว่า เพราะถ้าเจรจาได้
พระมหาพันก็คงเจรจาไปนานแล้ว แต่ก็เอา อยากดูสิว่าแนวทางที่ว่าแน่ๆ
ของสำนักพุทธฯนั้นจะแน่ขนาดไหน
เพราะเห็นคุยโขมงว่าแก้ปัญหาวัดไทยในสหรัฐอเมริกาได้มากมาย
แค่อินเดียคงง่ายเหมือนปอกกล้วยละกระมัง !

มหาเถรสมาคมขอเจรจาแม่ชีบริหารวัดไทยนาลันทา
นายอำนาจ บัวศิริ
ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
เปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา
ตนได้เดินทางไปร่วมประชุมสัมมนาพระธรรมทูตสายต่างประเทศทั่วโลก
ที่สาธารณรัฐอินเดีย จึงถือโอกาสเดินทางไปยังวัดไทยนาลันทา เมืองปัฏนา
รัฐพิหาร เข้าพบพระครูปริยัติธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยนาลันทา
สอบถามข้อเท็จจริงอย่างละเอียดและความคืบหน้าการแก้ปัญหากรณีศาลสูงเมืองปัฏนาพิพากษาให้แม่ชีอารีย์
ผ่องใส เป็นผู้บริหารจัดการวัดแทนเจ้าอาวาส
ซึ่งจากการได้พูดคุยกับพระครูปริยัติธรรมวิเทศ
ทราบว่าขณะนี้ที่วัดไทยนาลันทามีพระสงฆ์ทั้งหมด 8 รูป
บรรยากาศและสภาพของวัดก็สะอาดเรียบร้อยดี การบริหารวัดขณะนี้ไม่ได้วุ่นวาย
เพียงแต่พระครูปริยัติธรรมวิเทศ มองว่าไม่มีอำนาจดำเนินการต่างๆ ได้
ต้องรอแม่ชีอารีย์เป็นผู้จัดการ อีกทั้งจากการหารือกับพระครูปริยัติธรรมวิเทศ
ยังได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการทวงสิทธิ์การบริหารจัดการวัดไทยนาลันทาคืน
เพื่อยุติความวุ่นวายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินการ 2 แนวทาง ดังนี้
1.การขอเจรจากับแม่ชีอารีย์ เพื่อปรับความเข้าใจ
และขอดูเอกสารพินัยกรรมที่ยื่นฟ้องศาล เนื่องจากแม่ชีอารีย์มีอายุกว่า 70
ปีแล้วหากเกิดอะไรขึ้น
กลัวว่าแม่ชีอารีย์จะยกกรรมสิทธิ์การบริหารจัดการวัดให้คนอื่นๆ อีก
ก็จะยิ่งสร้างความวุ่นวายไปกันใหญ่
2.หากการเจรจาไม่ประสบความสำเร็จจะรวบรวมเอกสาร
เพื่อยื่นฟ้องศาลขอสิทธิ์การบริหารจัดการวัดกลับคืนมา
ในเบื้องต้นหากต้องยื่นฟ้องศาลจะประสานให้วัดไทยพุทธคยา
ซึ่งเป็นวัดไทยแห่งแรกในอินเดีย ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2500
ให้เข้ามาช่วยดูแลและช่วยกันต่อสู้ในการทวงคืนสิทธิ์
"การดำเนินการทั้งสองแนวทางมีจุดประสงค์เพื่อต้องการทวงคืนสิทธิ์การบริหารจัดการวัด
ซึ่งก็มีสองทางเลือกเช่นกัน คือให้สิทธิ์เป็นของพระครูปริยัติธรรมวิเทศ
และให้วัดไทยนาลันทากลายเป็นสาขาของวัดไทยพุทธคยา
ที่มีความเข้มแข็งเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการบริหารจัดการ ทั้งนี้
ระหว่างรอผลการเจรจานั้นได้มีการรวบรวมหลักฐาน
เพราะถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นหลักฐานที่แม่ชีอารีย์ยื่นฟ้องกับศาล
บวกกับก่อนหน้าที่พระครูปริยัติธรรมวิเทศจะเป็นเจ้าอาวาส
ตำแหน่งดังกล่าวว่างไว้ 1 ปี
ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าแม่ชีอารีย์ได้ดำเนินการอะไรบ้าง ดังนั้น
จะต้องหาเอกสารดังกล่าวให้เจอ
เผื่อจะมีประโยชน์หากจะต้องใช้ประกอบยื่นฟ้องศาล อย่างไรก็ตาม
การที่ผมได้เดินทางไปวัดไทยนาลันทา ไม่พบแม่ชีอารีย์
เพราะพักอยู่ในที่ส่วนตัว ทั้งนี้ บทบาทมหาเถรฯ
หลังจากนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวัดไทยนาลันทาและวัดไทยพุทธคยาในการเจรจา
แต่หากต้องการให้มหาเถรฯ ช่วยเราก็พร้อมดำเนินการ" ผอ.มหาเถรฯ กล่าว
ข่าว : ข่าวสด
9 มีนาคม 2554