|
66 เปอร์เซ็นต์ คนไทยไม่รู้จักวันมาฆบูชา จริงฮ่ะ เพราะเรารู้จักก็แต่วันวาเลนไทน์ รู้ด้วยนะว่ากุหลาบสีแดงแพงกว่าทุกวันในรอบปี
มาฆบูชา VS วาเลนไทน์ ปล. เมืองไทยเมืองพุทธ แต่รู้เรื่องคริสต์ดีกว่าเรื่องพุทธ
เอแบคโพลล์ เผย ปชช. 65.4% ไม่รู้มาฆบูชาวันไหน หลักธรรม "โอวาทปาฏิโมกข์" มีคนรู้แค่ 27.7%
ดร.นพดล กรรณิกา
ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน
(ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ
เรื่อง ความรู้ ความเข้าใจของเด็ก-เยาวชนไทยเกี่ยวกับวันมาฆบูชา
และความตั้งใจที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ในวันมาฆบูชา กรณีศึกษาตัวอย่างเยาวชนอายุ
12-24 ปีที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,325 ตัวอย่าง
ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 10–12 กุมภาพันธ์ 2554 ผลการสำรวจ
พบว่ามีเพียงร้อยละ 34.6 ทราบและระบุได้ถูกต้อง ว่าวันมาฆบูชาตรงกับวันที่ 18
กุมภาพันธ์ ร้อยละ 65.4 ไม่ทราบ ผลสำรวจเมื่อสอบถามการรับรู้ในหลักธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในวันมาฆบูชานั้น พบว่ามีตัวอย่างเพียง ร้อยละ 37.3 เท่านั้นที่สามารถระบุได้อย่างถูกต้องว่าคือ “โอวาทปาฏิโมกข์” ในขณะที่ตัวอย่างประมาณ 2 ใน 3 คือร้อยละ 62.7 ไม่ทราบ/ระบุไม่ถูกต้อง ประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งก็คือ เมื่อได้สอบถามต่อไปว่าหลักธรรมโอวาทปาฏิโมกข์ หมายถึงอะไรนั้นพบว่า มีอยู่เพียงร้อยละ 27.7 เท่านั้นที่สามารถสรุปใจความสำคัญของหลักธรรมดังกล่าวได้อย่างถูกต้องว่าหมายถึง “การทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” นอกจากนั้นคือร้อยละ 12.9 ระบุความหมายของโอวาทปาติโมกข์ในแบบอื่นๆ อาทิ หมายถึง การเดินทางสายกลาง การดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ในขณะที่ร้อยละ 51.0 ระบุถูกทุกข้อที่กล่าวมา และร้อยละ 8.4 ระบุไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร
สำหรับกิจกรรมที่จะทำในวันมาฆบูชาที่จะมาถึงนี้ พบว่า ร้อยละ 72.2 ระบุจะทำบุญตักบาตร ร้อยละ 50.9 ระบุร่วมพิธีเวียนเทียน ร้อยละ 42.0 ระบุใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และรอง ๆ ลงมา คือ ถวายสังฆทาน ทำความสะอาดบ้านเรือน ปล่อยนก ปล่อยปลา บริจาค ทำทานสงเคราะห์ผู้อื่น เข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ เจริญภาวนา และช่วยงานชุมชน/สาธารณะ เป็นต้น
กลุ่มเด็กและเยาวชนไทยที่ให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์ มีจำนวนมากกว่า กลุ่มเด็กที่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชา คือ ร้อยละ 43.2 ต่อร้อยละ 6.4 อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 27.3 ให้ความสำคัญเท่ากันทั้ง 2 วัน และร้อยละ 23.1 ไม่มีความเห็น
สถาบันสื่อมวลชนจึงน่าที่จะช่วยกันรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนหันมาสนใจวันสำคัญทางศาสนา และแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ดีไม่ใช่มีแต่เพียงความตั้งใจเท่านั้น นอกจากนี้กลุ่มพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ทั้งหลายควรใช้โอกาสวันมาฆบูชานี้ทำให้ความตั้งใจของเด็กและเยาวชนบรรลุถึงกิจกรรมที่ดีได้ โรงเรียนและชุมชนควรจัดสร้างบรรยากาศของการทำความดีให้เกิดขึ้นโดยมีกลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำบุญตักบาตรร่วมกัน การทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อโรงเรียนและชุมชน เป็นต้น ผลที่ตามมาก็คือ เด็กและเยาวชนของสังคมน่าจะสามารถบรรลุถึงความสำเร็จในการทำกิจกรรมที่ดีตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาได้อย่างยั่งยืนต่อไป ดร.นพดล กล่าว
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 49.8 เป็นชาย ร้อยละ 50.2 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 26.5 อายุระหว่าง 12-15 ปี ร้อยละ 23.0 อายุระหว่าง 16-18 ปี ร้อยละ 28.0 อายุระหว่าง 19-21 ปี และร้อยละ 22.5 อายุระหว่าง 22-24 ปี และกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 1.0 ระบุไม่ได้เรียนหนังสือเลย ร้อยละ 1.5 ระบุเคยเรียนแต่เลิกเรียนแล้ว ร้อยละ 5.5 ระบุเป็นนักเรียน แต่ตอนนี้ถูกพักการเรียน ร้อยละ 83.2 ระบุเป็นนักเรียนกำลังเรียนอยู่ และร้อยละ 8.8 ระบุเรียนจบแล้วตามลำดับ
ข่าว
: มติชน
|
www.alittlebuddha.com วัดไทย ลาสเวกัส 2920 McLeod Dr. Las Vegas Nevada 89121 USA (702) 384-2264 |