ดีเอสไอ
"บุก"
ตึกช้าง
ค้น
!
สำนักงานของเสี่ยอู๊ด
หาหลักฐานสมเด็จเหนือหัว

เจ้าหน้าที่ดีเอสไอขณะเข้าทำการตรวจค้น
สำนักงานบริษัทไดม่อนฮิลส์ ของนายสิทธิกร บุญฉิม
ดีเอสไอ และ ปปง.นำหมายค้นบุกตึกช้างเข้าค้นบริษัท “เสี่ยอู๊ด”
เพื่อหาพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดีพระสมเด็จเหนือหัว
วันนี้ (4 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย
ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ
ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพระสมเด็จเหนือหัว
นำเจ้าหน้าที่สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคฯ สำนักคดีภาษีอากร
และสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ
พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ประมาณ 40 คน
พร้อมหมายค้นศาลอาญา เลขที่ 2/2551 ลงวันที่ 4 ม.ค.51
เข้าตรวจค้นบริษัทไดมอนด์ฮิลล์ จำกัด เลขที่ 330/91 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล
เขตจตุจักร กทม. ภายในอาคารบี ตึกช้าง บริเวณชั้น 16, 18, 30
โดยบรรยากาศในออฟฟิศเป็นอย่างเงียบเหงาเนื่องจากยังไม่ถึงวันเปิดทำการ
ที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 16 เปิดเป็นสำนักงานฝ่ายออกแบบพระเครื่อง
ส่วนบริเวณชั้น 18 เป็นแผนกบัญชีและการเงิน
รวมทั้งใช้เป็นพื้นที่เก็บพระเครื่องหลายรุ่น ส่วนบริเวณชั้น 30
พบว่าเป็นห้องพักของนายสิทธิกร บุญฉิ่ม หรือเสี่ยอู๊ด ประธานบริษัท
ไดมอนด์ฮิลล์ จำกัด ผู้จัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว
แต่เนื่องจากเสี่ยอู๊ดอยู่ระหว่างพักผ่อนเทศกาลปีใหม่ในจังหวัดเชียงใหม่
จึงไม่มีคนนำค้นห้องพักเสี่ยคนดัง
จึงได้ตรวจสอบแฟ้มเอกสารพร้อมตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์
ก่อนนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายสรรเสริญ ปาลวัฒน์วิไชย
ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ เปิดเผยว่า ผลการตรวจค้น
เบื้องต้นพบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ มีการโอนเงินจากร้านทองเข้าบัญชีบริษัท
ไดมอนด์ฯ ประมาณ 25 ล้านบาท จึงให้พนักงานสอบสวนสำนักคดีภาษีอากร
และสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ตรวจสอบเพื่อติดตามอายัดเงินไว้
รวมทั้งยังตรวจสอบพบบัญชีค่าโฆษณาพระสมเด็จเหนือหัว
จึงยึดไว้ตรวจสอบหลังเสี่ยอู๊ดบอกว่าได้ลงทุน 30 ล้านบาท เป็นค่าโฆษณา
แต่ประเมินเบื้องต้นเห็นว่าน่าสูงกว่านี้
“ส่วนเหตุผลที่ไม่เข้าตรวจค้นห้องพักของนายสิทธิกร หรือเสี่ยอู๊ด
เพราะไม่มีคนนำค้น
เนื่องจากนายสิทธิกรได้เดินทางไปพักผ่อนเทศกาลปีใหม่ที่จังหวัดเชียงใหม่
เราไม่เป็นห่วงเรื่องการทำลายพยานหลักฐาน
เพราะตั้งแต่วันจับกุมยังไม่พบเสี่ยอู๊ดเคลื่อนย้ายพยานหลักฐานอะไร
อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์ก็พบว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่บริษัท
ไดมอนด์ฮิลล์ฯ มาทำงานเพราะบริษัทจะเปิดทำการในวันที่ 7 ม.ค.นี้” นายสรรเสริญ
กล่าว

หลักฐานที่ค้นได้
ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวว่า
ส่วนความคืบหน้าการสอบสวน ได้สอบสวนหน่วยงานที่เปิดรับจองพบว่าบริษัท
ไปรษณีย์ฯ มียอดเงินจองประมาณ 100 ล้านบาท ส่วนธนาคารพบยอดเงินจองประมาณ 6
ล้านบาท
ส่วนยอดที่ชัดเจนยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะหน่วยงานข้างต้นมีสาขาทั่วประเทศ
ต้องใช้เวลาตรวจสอบ ส่วนผลการเข้ามนัสการฯ พระวิสุทธบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนฯ
และพระที่เป็นสมุบัญชีของมูลนิธิอัฎฐมราชานุสรณ์
ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่เปิดเผยไม่ได้
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า
ส่วนการตรวจสอบการสร้างโบสถ์ในพื้นที่อำเภอเมืองราชบุรี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ฯ
ได้นำเข้าในที่ประชุมมูลนิธิอัฎฐมราชานุสรณ์
เพื่อนำรายได้จากการจัดสร้างพระไปสร้างโบสถ์ เนื่องจากหลวงพ่อเป็นคนราชบุรี
เบื้องต้นมีการเตรียมการซื้อที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนก่อนใช้พื้นที่เดิมสร้างโบสถ์
ส่วนหลังองค์พระสมเด็จเหนือหัวที่ด้านหลังมีสัญลักษณ์คล้ายตรามหามุงกุฎ
ยังไม่ได้ข้อสรุปต้องหารือสำนักพระราชวัง สำนักราชเลขาธิการ
เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
ข่าว : ผู้จัดการ
6 มกราคม 2551
|